สร้างจุดยืนเพื่อผลักคนพลังลบ

    ในครั้งที่แล้วเราได้ค้นพบสาเหตุสักที ว่าที่เราห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง จิตใจที่จะทำสิ่งต่างๆ แม้สิ่งนั้นเราจะเคยชื่นชอบมันมากแค่ไหนก็ตาม

     ทีนี้เราก็มาดูกันว่าเราจะทำยังไงให้พวกคิดลบพลังร้ายเหล่านี้เข้าไม่ถึงตัวเรา

      วิธีที่เราจะมาบอกคือ เราต้องสร้างความมั่นคงทางใจของเราขึ้นมาก่อน เมื่อใจเรามั่นคง เราก็จะเป็นที่พึ่งให้กับตัวเองได้ 
      
        คนที่มีความมั่นคงทางใจนั้น มันจะฉายออกมาทางแววตา และคนที่จ้องใส่พลังลบให้กับเรา เขาก็สัมผัสได้   ก็ไม่แปลกเลยเมื่อเราอ่อนแอเขาเลยข่มได้หน่ะสิ

          หากเราอยากมั่นคง เราก็ต้องมั่นใจในตัวเองก่อน เพราะฉะนั้น เราจึงต้องปรับปรุงตัวเองจากภายใน นั่นคือ หาความรู้ใส่ตัวให้หลากหลายด้าน แสวงหา ใฝ่หาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ  ให้รู้ลึก รู้จริง ความรู้สมัยนี้นั้นก็หาแสนง่ายดาย มีทุกศาสตร์ให้เลือกสรรกันฟรีๆ

     และเมื่อคุณเป็นที่พึ่งพิงให้แก่ตนเองได้ เมื่อนั้นแหละคุณจะเปล่งประกายความมั่นคงและน่าเกรงขามออกมาเอง

    แต่ก็มีข้อห้ามอยู่อย่างนึงคือเราห้ามพูดพล่อย พูดเพ้อเจ้อ ขอให้คิดก่อนพูด เพราะวาจาของเรานั้นแสดงถึงมันสมอง และวุฒิภาวะทางอารมณ์ของเรา การทำเช่นนั้นจะยิ่งทำให้เราสูญเสียพลังมากขึ้นไปอีก 
      

       ขอบอกข่าวร้ายว่ามันไม่มีทางลัด แต่ถ้าคุณทำได้ คุณจะเป็นไท และห่างไกลจากพวกนักสร้างพลังลบ สกัดดาวรุ่งแน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกคน ค้นพบคุณค่าในตัวเอง

       
     


เราเหนื่อยเพราะมีคนที่คอยดึงพลังงานจากเรา

 

ทำไมช่วงนี้เราถึงเหนื่อย เพลีย และเอาแต่นอน ทั้งความคิดก็ไม่แล่นเสียเลย นอนพักผ่อนอย่างไรก็ดูจะไม่ช่วย

ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้ป่วย ได้รับสารอาหารก็ครบถ้วนแล้ว ไม่ได้อดหลับอดนอนอะไรเลย

เราคงจะต้องมาลองฟังเหตุผลนี้กันดูบ้างหล่ะ

หากลองสังเกตุดีๆ ใกล้ๆตัวเราจะต้องมีคนอย่างน้อยหนึ่งคน ที่มีอิทธิพล หรือมีอำนาจต่อชีวิตของเรา
อย่างเช่น เจ้านาย เพื่อนสนิท คู่สมรส หรือพ่อแม่ ก็เป็นได้ เขาเหล่านี้บางทีอาจนำพลังลบบางอย่างมาสู่ตัวคุณทั้งโดยตั้งใจหรืออาจไม่รู้ตัวก็ได้ แต่มันก็ส่งผลต่ออารมณ์ของคุณแบบสะสมทีละเล็กละน้อย
....กว่ารู้สึกตัว เพราะคนพวกนี้บางทีใช้วิธีแทรกซึม พูดกรอกหูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  เราจะกระดิกตัวทำอะไรจะต้องขัดต้องห้ามกัน บางทีก็จุกจิกจู้จี้ ต้องแบบนี้สิแบบนั้นไม่ได้
     
แต่รู้ไหมทำไม เราปล่อยให้คนจำพวกนี้เข้ามาในชีวิตเราแบบลึกๆได้ก็เพราะบางทีเขาไม่ได้มาในรูปแบบศัตรูไง แต่มาในรูปผู้หวังดี ที่ค่อยๆกลืนกินตัวตน และความมั่นใจของเราไปทีละนิด จนเมื่อเรารู้ตัว เราอาจกลายเป็นคนเสื่อมสมรรถภาพทางความคิดไปเลย 

เรื่องนี้ไม่ได้พูดเกินเลย เพราะคนที่เคยประสบพบเจอ อาจถูกขัดจังหวะ หรือถูกขัดกลางคันระหว่างใช้ความคิด หรือเมื่อบางทีเราตัดสินใจใดๆไปโดยผ่านการคิดวิเคราะห์จากสมองของเรามาดีแล้ว แต่พอคนจำพวกนี้รู้เท่านั้น ก็จะทำการหักมุมความคิดของเราทันที โดยใส่ความคิดตัวเองลงไปแทน แรกๆคุณจะไม่รู้สึกตัวเพราะเปิดใจรับฟังความคิดเห็น 
 แต่ถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้บ่อยๆ คุณปล่อยให้สมองของคุณไม่ได้ใช้ความคิดตัวเอง หรือคิดเองแล้วมันก็ผิดไม่เข้าท่าตลอดสำหรับพวกเขา

....แล้ววันนึง คุณก็จะพบว่าคุณจะเริ่มคิดอะไรไม่ค่อยออก คิดได้ก็ไม่มั่นใจในตัวเอง พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงทันทีคล้ายคนไม่มีจุดยืน หนักเข้าก็จะขาดความมีชีวิตชีวา ไม่อยากริเริ่มทำอะไรใหม่ เพราะทำไปก็ผิดหรือไม่เข้าตา ไม่กล้าทำ เบื่อการถูกติติง

     ถ้าเป็นถึงขั้นนี้ คุณต้องหันกลับเข้ามาแก้ไขอะไรบางอย่างแล้วนะ ก่อนที่จะกลายเป็นโรคทางใจอื่นๆ นั้นคราวหน้าเราจะมาบอกถึงวิธีแก้ไข และห่างไกลจากพวกคนพลังลบเหล่านี้กัน

ณ.จุดนี้จะทำตัวยังไงและก้าวต่อไปยังไง

                                                        อย่ายอมให้ใครเหยียบฝัน สั่งซื้อ>>   ณ.จุดนี้จะทำตัวยังไงและก้าวต่อไปยังไง ตอนน...